เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 19.30 น. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุบ้านทาวน์เฮ้าส์ทรุดตัว ภายในหมู่บ้านครูสารสาสน์โครงการ 2 ซอยประชาอุทิศ 90 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ หลังเกิดเหตุองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านคลองสวน จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุเพราะเป็นพื้นที่อันตราย โดยจุดเกิดเหตุพบบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นทรุดตัวจำนวน 3 หลัง และหลังที่ 4 ทรุดตัวบางส่วน ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นปลูกติดกันจำนวน 50 คูหา ในซอยของหมู่บ้านแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 25 หลัง บริเวณทาวน์เฮ้าส์ฝั่งซ้ายมือตั้งแต่หลังแรก เลขที่ 233 235 239 และ 241 ซึ่งทั้ง 4 หลังมีตัวบ้านติดกัน เกิดการทรุดตัว ด้านหลังบ้านซึ่งเป็นห้องครัวและห้องน้ำพังถล่มลงมา เศษอิฐ เศษปูน หล่นลงมากองกับพื้น บริเวณหน้าบ้านพบกำแพงบ้านและหน้าต่างแตกแยกทรุดลงจนเอนเอียงไปทางด้านหลังบ้าน ซึ่งพบว่าบ้านที่เกิดการทรุดตัวก่อนคือบ้านหลังเลขที่ 239 และได้รับความเสียหายมากที่สุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินสำรวจบ้านฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ พบว่า มีบ้านหลายหลังเกิดรอยแตกร้าวที่พื้นบ้านจนบางจุดทรุดเป็นโพรง กำแพงบ้านหลายจุดมีรอยร้าว ซึ่งชาวบ้านบอกว่า เป็นแบบนี้มานานหลายปีแล้ว บ้านมันทรุดลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ถึงกับพังลงมา แต่พอฝั่งตรงข้ามเกิดเหตุแล้วก็กลัวเหมือนกัน แต่ก็ต้องทนอยู่เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน อยากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบให้หมดทุกหลังในหมู่บ้านว่ามีหลังไหนที่อันตรายบ้าง
ขณะที่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยพร้อมเจ้าที่ที่เชี่ยวชาญได้เดินทางมายังพื้นที่ที่เกิดเหตุพร้อมสำรวจโดยรอบ เบื้องต้นสันนิฐานคาดว่าน่าจะเกิดจากฐานล่างของตัวบ้านเกิดการทรุดตัว โดยบ้านต้นเหตุเกิดจากบ้านเลขที่ 239 ซึ่งจาการสังเกตเบื้องต้นพบว่าบ้านหลังดังกล่าวทรุดตัวมากกว่าหลังอื่นๆ ก่อนที่จะดึงบ้านข้างเคียงให้ทรุดตามลงไปด้วย จึงประชาสัมพันธ์เจ้าของบ้านไม่ให้เข้าไปในตัวบ้านโดยเด็ดขาด
นายธวัชชัย สุขรัตนวงศ์ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านหลังแรกที่ทรุดตัว เล่าว่า บ้านนี้เป็นของพี่เขย ตนมาเฝ้าให้และอยู่อาศัยมานานกว่า 7 ปี ตอนมาอยู่แรกๆก็พบว่าบ้านเริ่มมีอาการเอียงแต่ไม่ถึงกับทรุดตัว แต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 65 บ้านเกิดอาการลั่น มีเสียงดังจนปูนร้าว ตนกลัวไม่ปลอดภัย เลยต้องไปเช่าบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อเอาชีวิตรอด ซึ่งบ้านหลังที่เกิดเหตุก็ไม่มีผู้พักอาศัย ส่วนเมื่อคืนที่ผ่าน ตนได้ยินเสียงบ้านลั่นเสียงดังจึงเดินออกมาดู ก่อนที่บ้านตนจะทรุดตัวลงและบ้านอื่นๆก็ทรุดตามไปเรื่อยๆ หลังเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ก็มีหน่วยงานต่างๆลงพื้นที่มาตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ส่วนสาเหตุตนคิดว่าตอม่อน่าจะทรุดตัวเพราะหมู่บ้านนี้ก่อสร้างมานานมากกว่า 20 ปี อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูหน่อย เพราะบ้านตนก็ยังต้องผ่อนธนาคารอยู่เหลืออีก 5 แสนบาท
ด้านนายพินิจ เติมบุญ นายก อบต.บ้านคลองสวน กล่าวว่า บ้านที่ทรุดตัวได้รับความเสียหายหนักมี 3 หลัง ส่วนหลังที่ 4 เสียหายไม่มาก เมื่อคืนที่ผ่านมาทางสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาประเมินเบื้งต้นให้กับทาง อบต.แล้ว พบว่ายังคงมีการทรุดตัวอยู่เรื่อยๆ 20 นาทีแรกหลังเกิดเหตุทรุดลงไป 1 มิลลิเมตร ล่าสุดตอนนี้ยังคงทรุดตัวลงอยู่เรื่อยๆบางจุดทรุดตัวลงชั่วโมงละ 1 เซ็นติเมตร ซึ่งทาง อบต.ได้ทำหนังสือให้โยธาจังหวัดเข้ามาร่วมตรวจสอบแล้ว และจะประเมินต่อว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
นายพินิจ เติมบุญ นายก อบต.บ้านคลองสวน ยังกล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านทางนายอำเภอ พระสมุทรเจดีย์ ได้เข้ามาเยียวยา บ้านที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้นไปแล้ว หลังละ 5,000 บาท หลังจากนี้ ทาง อบต.ก็จะตั้งคณะกรรมการการช่วยเหลือ จะหารือการเยียวยาตามระเบียบอย่างน้อยหลังละไม่น้อยกว่า 50,000 บาท ส่วนผู้ได้รับผลกระทบก็ได้เข้ามาลงทะเบียนกับทาง อบต.แล้ว และผู้พักอาศัยก็มีที่พักโดยได้ไปพักอาศัยอยู่กับญาตพี่น้องแล้ว ส่วนทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปนำออกมา เพราะพื้นที่ยังไม่ปลอดภัย ส่วนพื้นที่นี้เดิมทีเป็นพื้นนาข้าวและบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งปกติของพื้นที่สมุทรปราการปีนึงจะทรุดลง ประมาณ 5 เซ็นติเมตร ส่วนสาเหตุที่เกิดการทรุดตัวนั้นยังอยู่ระหว่าการตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัด ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังหลังอื่นๆจากที่ดูน่าจะไม่มีการทรุดตัวจนหลังอื่นพังลงมาแล้ว เพราะหลังที่ 3 นั้น แยกขาดออกจากกันและไม่มีการดึงกันแล้ว
สามารถติดตามเราเพิ่มได้ที่
Facebook : ข่าวสารเมืองปราการ V2
Tiktok : maungprakarn_v2