ภาพเวทนา 5 ชีวิต นอนอยู่ข้างถนน สุดท้ายโอละพ่อ พบประวัติยาวเป็นหางว่าว

7 มกราคม 2567

จากรณี เพจข่าวสารเมืองปราการ V2 นำภาพ 5 ชีวิต สุดรันทด ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็ก 2 คน นอนอยู่ข้างถนน พร้อมกับได้ลงข้อความว่า พบเจอครอบครัวหนึ่งเห็นสอบถามคร่าวๆว่าถูกไล่ที่มาจากต่างจังหวัดมีพ่อแม่แม่วัย 25 ปีและก็น้องชายของพ่อและเด็กอีก 2 คนกำลังหางานทำไม่มีห้องอยู่ โดยพิกัดแจ้งว่าสถานที่ดังกล่าว อยู่บริเวณ ริมฟุตบาท ข้างห้างอิมพิเรียลเวิลด์สำโรง ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนที่ภาพดังกล่าวจะถูกแชร์ต่อในโลโซเชียล รวมถึงเพจต่างๆ จนมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือกันจำนวนมาก จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ด้วยความสงสัย เนื่องจากมีชาวโซเชียลบางส่วนที่เคยพบเห็นครอบครัวดังกล่าว เข้ามาแสดงความคิดเห็นในด้านลบ

ล่าสุดเมื่อ เวลา 22.30 น.วันที่ 6 ม.ค.67 ชมรมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมและท้องถิ่น สมุทรปราการ นำโดยน้ายอด สำโรง ประธานชมรม ทราบเรื่องจึงนำทีมงาน ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบและพิสูจ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อไปถึงไม่พบ 5 ชีวิต อยู่จุดเดิมแล้ว ก่อนที่ชาวบ้านจะเดินมาให้ข้อมูลว่า ทั้งหมดย้ายไปหลับนอนอยู่บริเวณซอยข้างๆ ห่างจากจุดที่เคยอยู่ประมาณ 100 เมตร ก่อนที่ทีมงาน จะเดินเข้าไปตรวจสอบตามที่ได้รับข้อมูล กระทั่งพบทั้ง 5 ชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือนายต้นอายุ 33 ปี นางสาวโม อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา และ นายเต้ย อายุ 27 ปี น้องชายนายต้น ปูเสื่อนอนอยู่ท้ายซอย ในสภาพน่าเวทนาเพราะภาพที่เห็นนั้นมีเด็กชาย อายุ 6 ขวบ และ เด็กหญิงอายุ 8 ขวบเนื้อตัวมอมแมมนอนอยู่ด้วย จากนั้นทีมงาน จึงได้สอบถามต้นสายปลายเหตุว่า ทำไม่ทั้ง 5 ชีวิต ถึงต้องมานอนอยู่ข้างถนนแบบนี้

นายต้น พ่อของเด็กทั้ง 2 คน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองกับเมียเลิกกันประมาณ ​4 เดือน จากนั้นตน จึงนำลูกชายมาเลี้ยงที่บ้านพักย่านบ้างด้วน อ.เมืองสมุทรปราการ ต่อมาจึงตัดสินใจกลับไปขอคืนดีกับเมียก่อนที่จะพาลูกชายกลับไปอยู่กับเมียที่ จ.ลพบุรี แต่เมื่อไปถึงทางญาติเมียกลับไม่ยอมรับ และไม่ให้อาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากตนเองมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหลายครั้ง ก่อนที่ญาติเมียจะขับไล่ตนเองออกจากบ้าน ตนเองจึงชักชวนเมียและลูกทั้งสองคน เดินทางกลับมาที่ จ.สมุทรปราการ แต่เมื่อมาถึงที่ บ้านก็มีปัญหากับญาติจนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ จึงพาภรรยาลูกทั้งสองคน และ น้องชาย อีก 1 คน หอบเสื้อผ้า ออกมาเร่รอนอาศัยอยู่ข้างถนน

ส่วนทางด้าน นางสาวโม อายุ 25 ปี ภรรยาของนายต้น กล่าวว่า หลังจากหอบลูกทั้งสองคนตามสามีมา ตนเองก็จำเป็นที่จะต้องให้ลูกออกจากโรงเรียน เนื่องจากไม่มีเงินส่งเสีย ระหว่างนี้ก็เคยติดต่อไปหน่ายงานของรัฐแล้วแต่ทางหน่วยงานของรัฐ แจ้งว่า จะแยกตนเองกับลูกรวมถึงสามีให้ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงคนละที่ ตนจึงไม่ยอมรับการช่วยเหลือ ระหว่างนี้ตนเองกับสามีก็เคยไปสมัครงานแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครรับ จึงต้องจำเป็นต้องนอนอยู่ข้างถนนแบบนี้ต่อ ส่วนอาหารการกิน ก็อาศัยจากวัดบ้าง รวมถึงเงินก็ได้จากชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาเค้าสงสารก็บริจาคให้ก็จะนำมาซื้อข้าวให้ลูกกิน แต่วันไหนสามีดวงขึ้นสามีก็จะนำเงินที่ได้จากบริจาค ไปเติมเงินเล่นพนันปั่นสล็อต มีบ้างที่แจ๊คพ๊อตแตกก็จะได้เงินมา 2-3 ร้อยบาท

ต่อมาน้ายอดสำโรง ได้ฟังเรื่องราว ได้แจ้งกับทั้ง 5 ชีวิตว่า จะช่วยเหลือในเบื้องต้นโดย พาไปพักที่ห้องเช่ารายวันก่อน จากนั้นจะหางานให้ทำ เพื่อที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ ก่อนที่จะพาขึ้นรถแวะไปทานอาหาร บริเวณหน้าห้างอิมพิเรียลเวิดล์สำโรง ต่อมาระหว่างที่ไลฟ์สดอยู่นั้น ทางผู้ใจบุญรายหนึ่งซึ่ง เข้ามาติดตามข่าวในเพจ ติดต่อทางทีมงานมาว่ามีความประสงค์จะอุปการะ ครอบครัวนี้ให้ไปทำงานที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งย่านบางปู แต่เพื่อความมั่นใจว่าทั้ง 3 คน จะไม่ไปสร้างปัญหาในภายหลังและประวัติใสสะอาดจริงๆ เพราะมีบางคอมเมนต์ ให้ข้อมูลมาในเชิงลบ ทางทีมงานจึงพาทั้งหมดไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่ สภ.สำโรงเหนือ จนทราบว่า นายต้น และ นายเต้ย เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยนายเต้ย เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยา 3 ครั้ง และนายต้น เคยถูกดำเนินคดีครอบครองยาเสพติด และเสพยาเสพติด และยังอยู่ระหว่างหนีหมายจับของศาลแขวงจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาครอบครองยาเสพติด จากนั้นทางทีมงานจึงได้ประสานตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เข้าดำเนินการจับกุม นายต้น เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ต่อมา หลังทั้งหมดทราบว่าไม่สามารถ ที่จะกลับไปขอเงินแบบเดิมได้แล้ว จึงพยายามต่อลองกับทางทีมงานของชมรมว่า อยากจะกลับไปอยู่บ้านที่ลพบุรีแล้ว ไม่อยากถูกจับ แต่เพื่อให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริง ทีมงานจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฏหมายกับนายต้น ส่วนนายเต้ย และ นางสาวโม ให้ออกมาไลฟ์สดทางเพจ ข่าวสารเมืองปราการ V2 เพื่อขอโทษกับสังคม ที่นำลูกออกมาเร่รอน เพื่อขอเงินจากความใจดีของคนไทย หลังจากนี้จะไม่ทำแบบนี้อีก และรับปากว่าจะพาลูกกลับไปเรียนหนังสือ และอยู่กับญาติที่ จ.ลพบุรี จากนั้นนายอด จึงได้มอบเงินให้จำนวน 1000 บาท และหาห้องรายวันให้พัก 1 คืน เพื่อระหว่างรอเดินทางกลับลพบุรีต่อไป

สามารถติดตามเราเพิ่มได้ที่

Facebook : ข่าวสารเมืองปราการ V2

Tiktok : maungprakarn_v2

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวยอดนิยม