เมื่อเวลา 10:00 น.วันที่ 12 ม.ค. 2567 ที่ สภ.สำโรงเหนือ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ. ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ และกำลังฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมตัว นายสนธิรัตน์ ชื่นใจดี อายุ 33 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม ของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น AEROX สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5132 กรุงเทพ 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น SCOOPY สีส้ม หมายเลขทะเบียน 3 กญ 5472 กรุงเทพ 3.หมวกนิรภัย สีดำ เต็มใบ จำนวน 1 ใบ 4.เสื้อกีฬา กางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้น ชุดที่คนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุ โดยจับกุมตัวขณะหนีไปบวชได้ที่สำนักสงฆ์ธรรมสถิต ม.1 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองจ.สมุทรปราการ
จากการสอบสวนขยายผล นายสนธิรัตน์ ชื่นใจดี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เคยก่อเหตุในลักษณะ ดังกล่าวมาแล้ว ดังนี้
วันที่ 23 ธ.ค.2566 เวลา 09.35 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณหน้าบริษัทซีเกท ถ.เทพารักษ์
ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทรัพย์สิน 1.กระเป๋าเงินสีน้ำตาลพร้อมเงินสด จำนวน 500 บาท 2.กุญแจรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ดอก
วันที่ 24 ธ.ค.2566 เวลา 06:30 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณริมฟุตบาท หน้าตลาดหนามแดง
ถ.เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทรัพย์สิน 1.กระเป๋าพร้อมเงินสด จำนวน 30,000 บาท 2.สร้อยคอทองคำหนักครึ่งสลึง 1 เส้น 3.กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก
วันที่ 24 ธ.ค.2566 เวลา 05:00-21:00 น. ตะเวนก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณตลาดนัดสังกะสี ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทรัพย์สิน 1.กระเป๋าพร้อมเงินสด จำนวน 50,000 บาท
วันที่ 25 ธ.ค.2566 เวลา 12:21 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณปากซอยอินทามระ 55 แขวง
รัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ ทรัพย์สิน 1 .โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 11 จำนวน 1 เครื่อง 2.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น XS MAX จำนวน 1 เครื่อง พื้นที่ สน.สุทธิสาร
วันที่ 25 ธ.ค.2566 เวลา 12:21 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณปากซอยอินทามระ 55 แขวง
รัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ ทรัพย์สิน 1 .โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 11 จำนวน 1 เครื่อง 2.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น XS MAX จำนวน 1 เครื่อง พื้นที่ สน.สุทธิสาร
วันที่ 25 ธ.ค.2566 เวลา 13:45 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณ ซอยอินทามระ 33 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.สุทธิสาร กระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ” พื้นที่
วันที่ 27 ธ.ค. 2566 เวลา 21:23 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อสาขาประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซ. 18 แขวง/เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ทรัพย์สิน 1.กระเป๋าผ้าสีขาว จำนวน 1 ใบ 2.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 3.ไอแพค จำนวน 1 เครื่อง 4.Macbook Air ราคาประมาณ 48,000 บาท พื้นที่ สน.ห้วยขวาง
วันที่ 29 ธ.ค.2566 เวลา 09:53 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณสวนหลวงคอนโด ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ถ.เฉลิมพระเกียรติ 14 แยก 1 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ทรัพย์สิน 1.กระเป๋าสะพาย จำนวน 1 ใบ 2.เงินสด จำนวน 2,500 บาท พื้นที่ สน.บางนา
วันที่ 5 ม.ค.2567 เวลา 12.22 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณซอยเทพารักษ์ 92 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทรัพย์สินที่ได้ไป 1.กระเป๋าสะพาย พร้อมเงินสด จำนวน 40,000 บาท 2.กุญแจรถยนต์ จำนวน 2 ดอก และรับว่าได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และ กรุงเทพฯ อีกจำนวนหลายครั้ง
สอบสวน นายสนธิรัตน์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุในลักษณะ ดังกล่าวมาในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร ได้เงินสดและของมีค่ารวมกว่า 3 แสนบาท พฤติกรรม นายสนธิรัตน์ จะอาศัยช่วงไปส่งอาหารให้กับลูกค้า หลังจากส่งเสร็จ ก็จะอาศัยที่ตนเองสวมชุดไรเดอร์เพื่อตบตา ออกตระเวนหาเหยื่อ โดยจะเลือกรถของพ่อค้าแม่ค้าที่จอดขายของอยู่ริมถนน และรถที่ไม่ล็อคประตู เพื่อสะดวกในการก่อเหตุ เมื่อสบโอกาสช่วงที่ผู้เสียหายเผลอ ก็จะเดินไปหยิบเอากระเป๋าเงินและทรัพย์สินมีค่าขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี สวนเงินที่ได้ก็จะนำไปเล่นการพนันออนไลน์ และใช้จ่าย อย่างไรก็ตามสำหรับผู้เสียหายที่เคยตกเป็ยเหยื่อสามารถที่มาแจ้งความเพิ่มเติมได้ เพื่อแยกข้อหาดำคดีเพิ่มมากขึ้น
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2566 เวลา 09.36 น. ได้รับแจ้งจาก นายอภิชิต พวงทอง ผู้เสียหาย ได้จอดรถยนต์กระบะไว้ที่บริเวณหน้าบริษัทซีเกท ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แล้วลงไปหาลูกค้า โดยวางกระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน ไว้บริเวณเบาะรถฝั่งผู้ขับขี่ แต่ไม่ได้ล็อคประตูรถ ผู้เสียหายกลับจากหาลูกค้าปรากฏว่ากระเป๋าสะพายที่วางไว้หายไป จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าโดยคนร้ายขับขี่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น AEROX 115 สีน้ำเงิน-เทา หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5132 กรุงเทพฯ ด้านหลังรถมีกระเป๋าใส่อาหารไลน์แมน คนร้ายแต่งกายสวมใส่ชุดพนักงานส่งอาหาร ไลน์แมน สวมใส่หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ ต่อมาหลังจากตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าเจ้าของคือ นายสนธิรัตน์ ชื่นใจดี และยังพบผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ใช้ชื่อเดียวกัน โพสต์ภาพ สวมแจ็กเก็ตไรเดอร์ถ่ายรูปคู่กับรถจักรยานยนต์ที่นำไปใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามพฤติกรรมของนายสนธิรัตน์มาโดยตลอด กระทั่งทราบว่า วันที่ 7 ม.ค.นายสนธิรัตน์ โพสต์ภาพ ขณะเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดแห่งหนึ่ง ย่าน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่า นายสนิธิรัตน์ หนีไปจำวัดอยู่ที่ สำนักสงฆ์ธรรมสถิต ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้คาผ้าเหลือง
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล กล่าวอีกว่า ฝากประชาสัมพันธ์ และอุทาหรณ์กับพี่น้องประชาชน ที่จอดรถไว้ริมถนนเพื่อไปทำธุระแต่ไม่ได้ล็อครถ อย่างคิดว่าลงไปแป๊ปเดียวจะไม่มีใครเข้ามาขโมยของในรถของท่าน เช่นคดีนี้จะเห็นได้ว่า ผู้ต้องหาใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึงนาที เพราะฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การไม่ประมาท และล็อครถทุกครั้งที่ไม่อยู่ในรถ ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมฝ่ายสืบสวน ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว จนสามารถจับกุมผูต้องหามาดำเนินคดีได้
นางสาวธฤษวรรณ อายุ 40 ปี แม่ค้าขายผลไม้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ขณะที่ตนเองขายจอดรถขายผลไม้ ของอยู่บริเวณถนนเทพารักษ์ หน้าตลาดหนามแดง อ.เมืองสมุทรปราการ หลังจอได้ไม่นาน ตนจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ และสลับให้แฟนมานั่งขายบริเวณท้ายรถแทน ระหว่างนี้ตนเองนำกระเป๋าถือ ภายในมีเงินกว่า 6 หมื่นบาท สร้อยทอง 1 สลึง ของมีค่า อยู่ภายในกระเป๋า ไปเก็บไว้ที่เบาะหน้าข้างคนขับ แต่ไม่ล็อคประตู กระทั่งเดินกลับมาเพื่อจะหยิบเอากระเป๋าแต่พบว่าประตูรถแง้ม จึงอยู่รีบเปิดสำรวจดูจนพบว่ากระเป๋าหายไปแล้ว แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดจึงพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุนั้น สวมชุดไรเดอร์ ก่อนก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้ารถของตน และอาศัยช่วงที่แฟนของตนกำลังขายของให้ลูกค้าอยู่ เดินมาเปิดประตูฝั่งซ้ายเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าก่อนกลับไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
นางสาว บุญรอด สายวงษ์ อายุ 48 แม่ค้าร้านกาแฟ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ ขณะที่ตนเอง อยู่บริเวณที่เกิดเหตุขณะที่ตนขายของอยู่บริเวณดังกล่าว มีรถของผลไม้ของผู้เสียหาย มาจอดขายของ ขณะนั้นลูกค้าข้อนค้างเยอะ ก่อนผู้เสียหายจะมาซื้อทิชชูที่ร้ายของตนก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ขณะนั้นหลังจากทำธุระเสร็จ เดินกลับมาที่รถ ผู้เสียหายเห็นว่าประตูรถแง้มอยู่ จึงรีบเปิดประตูสำรวจ จึงพบว่ากระเป๋าที่เก็บไว้บริเวณเบาะหน้าหายไปแล้ว จากนั้นตนจึงบอกกับผู้เสียหายว่าจุดนี้มีกล้องวงจรปิดของเทศบาลอยู่ เชื่อว่าน่าจะเห็นพฤติกรรมของคนร้าย ส่วนไรเดอร์ที่ก่อเหตุนั้นตนเองก็จำไม่ได้ว่า เคยมารับของที่ร้านตนหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะสวมหมวกปิดหน้า สำหรับเหตุการณ์ลักษณะบริเวณหน้าร้านของตนน่าจะเป็นครั้งแรก และอยากฝากพ่อค้าแม่ค้าของของริมถนนอย่าชล่าใจและอย่าวไ้ว้ใจใคร หากจะไปทำธุระล็อคประตูรถไว้จะดีที่สุด
สามารถติดตามเราเพิ่มได้ที่
Facebook : ข่าวสารเมืองปราการ V2
Tiktok : maungprakarn_v2