จากรณี เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 25 ม.ค.67 นางสาวแอน อายุ 30 ปี ผู้ปกครองของ ดช.บีม อายุ 7 ขวบ นักเรียนของโรงเรียนวัดด่านสำโรง ชั้น ป.2 เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ พลวัฒน์ สิริสุขดาโรจน์ รอง สว.สอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เพื่อให้เอาผิดครูสาวท่านหนึ่ง ซึ่งสอนวิชาคณิต อยู่ในโรงเรียน หลังจากทำโทษเด็กแบบพิสดาร กับเด็กยกห้องกว่า 36 คน โดยการใช้เข็มทิ่มในปาก จนปากเป็นแผล เหตุเพียงเพราะครูประจำชั้นเดินไปเหยียบหมากฝรั่งที่ถูกคายไว้ในห้องเรียน แต่ไม่มีใครรับ จึงเรียกครูผู้หญิงอีกคน ซึ่งเป็นครูสอนคณิตศาสตร์มาร่วมสอบสวน ก่อนที่ครูร่วมสอบสวนลงมือทำโทษเด็ก โดยมีครูประจำชั้นยืนดู เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ม.ค.ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดเช้าวันนี้ ทาง ผู้อำนวยการโรงเรียนได้นัด ผู้ปกครองทั้ง 36 คน ซึ่งเป็น ห้องที่เกิดเหตุ มาพูดคุยและหาข้อตกลงร่วมกัน ภายในห้องประชุมในโรงเรียน นายอภิชา เพ็ชรน้อย ผู้อำนวยการ โรงเรียน กล่าวในห้องประชุมว่า ตนเองเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเหตุการณ์แบบนี้ไม่สมควรเกิดกับลูกๆในโรงเรียน การกระทำที่ยั้งคิดไม่ได้ไตร่ตรองของคุณครู นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก หลังเกิดเหตุตนเองได้สองถามครูทั้งสองคน เบื้องต้นยอมรับว่ากระทำจริง ซึ่งตนก็งงว่าครูใช้อะไรคิด จากนั้นจึงเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาหาข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง เรื่องนี้ตนเองจะปล่อยผ่านไม่ได้เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และนโยบายของโรงเรียน ที่สำคัญที่สุดคือ จรรยาบรรณวิชาชีพของครู โรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานไปยังเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาสมุทรปราการ ไปตั้งแต่วันเกิดเรื่อง เพื่อดำเนินการลงโทษทางวินัยกับครูทั้งสองคน เบื้องต้นมีคำสั่งให้ครูทั้งสองหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน และย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ส่วนกลาง ส่วนโทษนั้นหามีการสอบสวนและและทำเกินกว่าเหตุ อาจถึงขั้นไล่ออก ส่วนบรรยากาศภายห้องประชุม ทางโรงเรียนได้ตั้งกรุ๊ปไลน์กับผู้ปกครองเพื่อติดตามอาการเด็กและความคืบหน้าทางคดี และได้ประสาน พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เข้ามาอำนวยความสะดวกกับผู้ปกครอง ด้านการรับแจ้งความความ ซึ่งจาการพูดคุยทางผู้ปกครองก็ยังไม่พึงพอใจ เพราะยังไม่ได้รับคำขอโทษจากครูผู้ก่อเหตุ
ต่อมาทางโรงเรียนได้นำตัวเด็กทั้งหมดที่ถูกครูลงโทษ ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ โดยทางโรงเรียนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และจะติดตามอาการของเด็กๆอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่มายังโรงเรียนเพื่อให้คำแนะนำทางด้านคดี และพูดคุยเยียวยาจิตใจเด็ก ส่วนในทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะต้องมีการสอบสวนเพิ่มโดยร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น สหวิชาชีพ นักจิตวิทยา อัยการ และทนายความ เนื่องจากการสอบสวนเด็กเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
ด้านคุณบี หนึ่งในผู้ปกครอง บอกว่า ลูกของตนหลังกับจากโรงเรียนก็มีอาการซึมและบ่นว่าปวดริมฝีปาก จากนั้นช่วงประมาณห้าโมง น้องมีอาการอาเจียนอย่างหนักถึง 7 ครั้ง จึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าน้องติดเชื้อที่ลำไส้ แต่ก็ไม่ฟันธงว่าเกิดจากเข็มที่ครูทิ่มหรือไม่ จากนั้นตนก็พยายามเค้นถามลูกจนได้ความว่า ครูปุ๊กลงโทษเอาเข็มมาจิ้มที่ปากเด็กทั้งห้อง เพราะไม่มีใครรับว่ากินหมากฝรั่งแล้วคายทิ้งในห้องเรียน ตอนนี้ลูกสาวตนหวาดกลัวมาก ไม่กล้ามาโรงเรียน หลังจากนี้ตนก็อยากได้ยินคำขอโทษจากครูผู้ก่อเหตุ และยืนยันว่าจะไปแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อวานมีผู้ปกครองพานักเรียนโรงเรียนวัดด่านสำโรงมาแจ้งกับทางโรงพักสำโรงเหนือ ได้มีคุณครูได้ใช้เข็มกลัด ความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ทำร้ายร่างกายเด็ก โดยใช้ทิ่มเข้าไปที่ริมฝีปากด้านในจนเป็นบาดแผล วันนี้ก็มาติดตาม การดำเนินการของเขตการศึกษาสมุทรปราการเขต 1 และก็ของทาง ผอ.โรงเรียนวัดด่าน แล้วก็มีการเชิญผู้ปกครองมาทั้งสิ้น 36 ครอบครัว ในการที่มาสอบถามว่าเด็กทั้งหมดมีอาการอย่างไร แล้วก็ยืนยันการกระทำของอาจารย์ทั้งสองท่าน ทางตำรวจเองก็อยู่ระหว่างติดตามเชิญอาจารย์ทั้งสองท่านมาพบภายในวันนี้ ส่วนเด็กทั้ง 36 คนในห้องก็จะต้องส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจภายในวันนี้ แล้วก็จะเชิญผู้ปกครองมาสอบปากคำ โดยทางทีมของตำรวจได้ตั้งทีมงานไว้รอเพื่อไม่ให้เสียเวลา อีกส่วนก็คือทางพัฒนาสังคมก็ได้เข้ามาดูมาเยียวยา และรวมถึงจะประสานสหวิชาชีพ ในการที่จะมาร่วมสอบปากคำเด็กต่อไป เบื้องต้นตอนนี้น่าจะเข้าค่าย ความผิด ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ซึ่งลักษณะโทษจะมากขึ้นหรือไม่ ก็ต้องขอดูบาดแผลก่อน แต่ในเบื้องต้นดูแล้วน่าจะเป็นการใช้เข็มกลัดจิ้ม ที่บริเวณริมฝีปากด้านในของเด็ก คงต้องให้แพทย์ตรวจดูอีกทีนึง ณ เวลาที่รับแจ้งก็คือว่าในวันเกิดเหตุทางคุณครูประจำชั้นก็อยู่ในห้องเรียนแล้ว เพียงแต่ว่าคุณครูที่มาช่วยท่านเป็นครูอัตราจ่าง ก็มาช่วยสอบถามเด็กจนอาจจะเกิดอารมณ์เสียทำให้ขาดความยั้งคิด ซึ่งครูที่เป็นครูประจำชั้นน่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องขอสอบปากคำก่อน เรื่องค่ารักษาเด็ก เมื่อสักครู่อยู่ระหว่างการเจรจา มีเขตการศึกษามา มี ผอ.โรงเรียนมา แล้วก็เห็นมีการพูดว่าทางโรงเรียนจะเข้าไปดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้เด็ก ซึ่งเขาอยู่ระหว่างที่จะสรุปกันในเรื่องของสายการบังคับบัญชาของกระทรวงศึกษาธิการต่อไป ตอนนี้ผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปแล้ว เขาบอกจะเข้ามาพบในวันนี้ เบื้องต้นตอนนี้ทางเขตการศึกษา ได้เรียกตัวเข้าไปรายงานตัวที่สำนักงานเขต ทั้งสองคน
ทางด้านครูปุ๊ก กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนอื่นตนเองต้องกราบขอโทษ สังคม ผู้ปกครองนักเรียน รวมถึงทางโรงเรียน สาเหตุที่ทำไปตนเองหวังดีไม่ได้มีเจนาที่จะทำร้ายเด็ก และไม่คิดว่าการที่ตนลงโทษแบบมีจะทำให้เด็กมีบาดแผล โดยการลงโทษในลักษณะนี้ตนองทำเป็นครั้งแรก และเป็นการเพื่อข่มขู่เพื่อให้เด็กรับความจริงเท่านั้น แต่ช่วงจังหวะที่เอาเข็มกลัดทิ่มลงไปนั้นด้วนน้ำหนักมือไม่เท่ากันอาจจะพลาดพลั้งไปโดนปากเด็กบ้าง ส่วนเข็มกลัดนั้นเป็นเข็มกลัดใหม่ที่ใช้สำหรับกลัดเสื้อช่วงเวลามีการแสดงเพื่อให้เสื้อเข้ารูป ต่อมาหลังจากลงโทษเสร็จ เด็กทุกคนก็ไปทานข้าวกันตามปกติ จึงไม่คิดว่าเด็กได้รับบาดเจ็บหรือมีบาดแผล ส่วนวันเกิดเหตุนั้น ครูจ๋าเดินไปเหยียบหมากฝรั่งช่วงหน้ากระดานดำภายในห้อง แต่เมื่อถามเด็กในห้องก็ไม่มีใครไม่ยอมรับ ครูจ๋าจึงเดินมาตามตนที่ห้องเพื่อให้ไปช่วยสอบเด็ก เนื่องจากเด็กค่อนข้างจะกลัวตนมากว่าครูจ๋า อย่างไรก็ตามตน ส่วนสาเหตุที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อให้เด็กรับความจริง
ขณะที่ครู จ๋า กล่าวว่าวันเกิดเหตุ สาเหตุที่ตนเองไปเรียกครู เพื่อต้องการให้ครูปุ๊กมาว่ากล่าวตักเตือนเด็กเท่านั้น โดยไม่คิดว่าครูปุ๊ก จะเอาเข็มกลัดมาทิ่มปากเด็ก พราะตนคิดว่าคงไม่มีใครทำโทษเด็กแบบนี้ และวันเกิดเหตุตนเองอยู่หลังห้องเด็กทั้งหมดหันหน้าไปทางหน้ากระดาน จึงมองไม่เห็นช่วงที่ครูปุ๊กทำโทษ หากตนเองเห็นคงห้ามไปแล้ว เพราะตนเองก็รักเด็กๆเหมือนลูก ทั้งนี้ตนเองก็ต้องยอมรับข้อบกพร่องของตัวเองที่ไม่รอบคอบ และเฝ้าดูแลเด็กในปกครองอย่างใกล้ชิด อยากจะขอโทษผู้ปกครองและสังคม และตนองน้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
ทางด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวหลังสอบปากคำครูผู้ก่อเหตุ ว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ตนจึงลงมาติดตามคดีด้วยตนเอง เบื้องต้นหลังได้รับแจ้งความจากผู้ปกครอง ทางพนักงานสอบสวนก็ลงพื้นที่ ก็ปรากฏตามจริงที่สื่อมวลชลได้นำเสนอไปแล้ว ในส่วนของครูทั้งสองท่านก็ได้ยอมรับในสิ่งที่ตนได้ทำลงไป เจตนาก็เพื่อจะให้นักเรียนรู้จักทำผิดและยอมรับผิด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง คุณครูทั้ง 2 ก็รับสารภาพ โดยยืนยันเจตนาไม่มีความตั้งใจทำร้ายเด็กขนาดนั้น แต่ก็ต้อรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ส่วนทางคดีก็ต้องว่ากันไป ทางคดีตอนนี้สอบเสร็จแล้วบางส่วนแต่ยังคงต้องรอผลแพทย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาโดยครูปุ๊ก ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้เป็นตรายต่อกายและจิตใจ ส่วนครูจ๋า ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากการสอบสวนพยานหลักฐานไปถึงครูจ๋า ก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาด้วยอีกคน
สามารถติดตามเราเพิ่มได้ที่
Facebook : ข่าวสารเมืองปราการ V2
Tiktok : maungprakarn_v2
#ข่าวสารเมืองปราการ #ข่าวสมุทรปราการ #สมุทรปราการ