กันจอมพลัง พาเด็ก 14 แจ้งความหลังถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย

12 กุมภาพันธ์ 2567

เมื่อเวลา 10.30 กัน จอมพลัง หรือนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ นำนายไก่ (นามสมุติ) อายุ 35 ปี และน้องพีม อายุ 14 ปี เดินทาเข้าพบ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ่อเลี้ยง หลังจากน้องพีม อ้างว่าถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายโดยการทารุณกรรม จนมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง เหตุเกิดที่บ้านพักหลังหนึ่งย่านซอยอุ่นอารีย์ อ.เมืองสมุทรปราการ

กัน จอมพลัง กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายไก่ ได้แจ้งขอความช่วยเหลือมาทางตนว่า น้องพีม ลูกชายแท้ๆ วัย 14 ปี ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายโดยการทารุณ จนน้องพีมทนไม่ไหว ต้องหนีออกจากบ้านของพ่อเลี้ยง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการเดินทางไปหานายไก่ พ่อแท้ๆ ที่ จ.สุรินทร์ ต่อมาหลังจากตนทราบเรื่องราว จึงเดินทางไป รับตัว น้องพีม และนายไก่ เพื่อมาสอบถามข้อเท็จริงที่เกิดขึ้น กระทั่งได้ทราบจากปากน้องพีมว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเต็มตัวน้องพีมนั้น น้องพีมบอกว่า พ่อเลี้ยงเป็นคนลงมือ โดยการวิธีการทารุณนั้น พ่อเลี้ยงจะใช้ไฟแช็กรนที่อวัยะเพศ ใช้บุหรี่จี้ ลงมือเตะต่อย ใช้ไม่กอล์ฟฟาด นอกจากนี้ยังบังคับให้กินอุจจาระแมว หมา และฉี่ของตนเอง รวมถึงใช้นำมันราด พ่อเลี้ยงกระทำกับน้องพีมมาต่อเนื่องตลอดระยะกว่า 1 ปี หลังจากตนเองฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นทำโทษที่โหดร้ายกับเด็กมาก ตนเองได้สอบถามน้องพีมอีกว่า ฟันหน้าหายไปไหน ถึง 2 ซี่ น้องบอกเคยถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนฟันโยก ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะยื่นข้อเสนอว่าถ้าอยากให้หยุดทำต้องถอนฟันมาให้ 2 ซี่ ก่อนที่น้องจะพีมจะถอนฟันให้พ่อเลี้ยงเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หลังจากพ่อแท้ๆเห็นว่าเรื่องนี้ควรจะยุติสักที และอยากให้ลูก มีชีวิตที่ปลอดภัย จึงร้องมาที่ตน เพื่อให้พาเข้าพบตำรวจ ให้ช่วยดำเนินการทางคดีกับพ่อเลี้ยงรายนี้ให้ถึงที่สุด

นายไก่กล่าวว่า สำหรับเหตุกาณ์นี้ตนเคยเป็นข่าวดังมาแล้ว เมื่อปี 62 ก่อนที่ตนเองจะเดินทางไปออกรายการต่างคนต่างคิด เพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูก ซึ่งขณะนั้น ทางพ่อเลี้ยงได้ออกมาโต้ว่า น้องพีมเป็นคนทำร้ายตัวเอง ต่อมาอดีตภรรยาได้แจ้งจับตน ขณะที่ตนเองกำลังออกรายการอยู่ เนื่องจากตนเองมีหมายจับ ที่ จ.เชียงใหม่ ในคดีฉ่อโกง ก่อนที่ตำรวจคุมตัวไปฝากขั้ง ที่เรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากวันนั้นตนก็ได้เจอลูกอีกเลย แต่ทราบเบื้องต้นว่าลูกชายอยู่ในความดูแลจาก พม.ต่อมาหลังจากตนเองพ้นโทษออมาเมื่อปลายปี 66 จึงเดินทางไปบ้า จ.สุรินทร์ กระทั้งวันที่ 5 ก.พ.ลูกชายไปหาตน ที่วัดโยธาประสิทธิ์ ซึ่งเป็นวันที่ตนเองไปอาศัยอยู่ เห็นลูกมีบาดแผลเต็มตัว จึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากปากลูกชาย กระทั้งลูกชายบอกว่าสาเหตุที่หนีออกมาจากบ้าน เนื่องจากทนพฤติกรรมของพ่อเลี้ยงไม่ไหว ที่พ่อเลี้ยงทำร้ายโดยการทารุณ และยังบังคับให้กินอุจจาระ ใช้มีดกรีด และทำร้ายร่างกาย น้องบอกว่าหนีออกจากบ้านมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้มาเจอตน ส่วนสาเหตุที่ถูทำร้ายนั้น น้องบอกว่า พ่อเลี้ยงไม่พอใจตน และโกรธแค้นส่วนตัว

ต่อมานายเต้ อายุ 34 ปี นางเอ อายุ 37 ปี แม่เลี้ยง และ นางสาวแดง อายุ 94 ปี ย่าของน้องพีม หอบหลักฐานต่างๆ ทั้งรูปถ่าย ยารักษา และ เอกสารการรักษาตัวของน้องพีม เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ก่อนที่จะสัมภาษณ์ กับ สื่อมวลชนว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แม่ข้องน้องพีมกล่าวว่า ลูกชายมีพฤติกรรมแปลก มาแต่อายุ 5 ขวบ ก่อนที่จะเริ่มมีความรุนแรงขึ้น จนมาทำร้ายตัวเอง และยังทำลายข้าวของที่บ้าน ต่อมาหลังจากเข้าไปเรียนที่โรงเรียน ก็ไม่สามารถที่จะปรับตัว อยู่กับเพื่อนๆได้ เพราะชอบไปรังแกเพื่อน ไปส่งที่โรงเรียนก็หนีออกมา และเคยไปรักษาตัวเกี่ยวกับอาการนี้ที่โรงพาบาลยุวประสาท แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนล่าสุดได้นำตัวไปรักษาที่ บ้านราชาวดีชาย จ.นนทบุรี แต่ไม่ได้ไม่นานก็หนีออกมา และยังพาเพื่อนหนีมาอยู่ที่บ้านด้วยอีก 2 คน และน้องพีมจะชอบหนีออกจากบ้าน กลับมาก็จะมีบาดแผลติดตัวกลับมา ตนยันว่าสามีไม่มีพฤติกรรมที่จะทำร้ายลูกเลี้ยงแต่อย่างใด

ส่วนทางด้านนายเต้ พ่อเลี้ยง กล่าวว่า สำหรับลูกเลี้ยง หลังจากมาอยู่กับตน ก็ชอบหนีออกจากบ้านไปหลายครั้งแล้วก่อนที่จะไปเร่ร่อนอยู่ ในพื้นที่นครบาล หลังจากหายออกไปก็ไปขโมยของในร้านสะดวกซื้อ ไปคุ้ยขยะ ทุกครั้งตนเองก็ต้องไปตามกลับมาและก็จะเห็นบาดแผลติดตัวกลับมาตลอด ล่าสุดก็หนีไปอยู่ที่วัดกลาง ย่าน อ.เมืองสมุทรปราการ ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่าส่วนสาเหตุฟันหักนั้น มาจากน้องพีมถอนฟันตัวเอง ซึ่งช่วงที่ถอนย่าเองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่ถอนน้องพีมบอกว่าอยากเหมือนติกต่อกเกอร์จ๊ะทิงจา ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายน้องพีมแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่นายไก่ ออกมากล่าวโทษตัวเองที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ตัวเองเสียหาย ซึ่งตนเองยืนยันว่าจะแจ้งความกับนายไก่คืน อย่างแน่นอน เนื่องจากตนเองเสียหาย

ทางด้าน พ.ต.อ.นพดล กล่าว่า หลังจากได้มีการพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายแล้ว ทั้งสองยังให้การต่างกัน ตนเองยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่หลังจากนี้จะได้เชิญสหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำกับน้องพีม ซึ่งยังเป็นเยาวชน เพื่อดำเนินการขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

สามารถติดตามเราเพิ่มได้ที่ Facebook : ข่าวสารเมืองปราการ V2 Tiktok : maungprakarn_v2

#ข่าวสมุทรปราการ #กันจอมพลัง #ข่าวสารเมืองปราการ #สมุทรปราการ

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวยอดนิยม