รวบโจรทำทีเป็นพลเมืองดี เปิดประตูรถปลุกนักท่องราตรี ที่เมาจอดนอนข้างถนน สบโอกาศฉกทรัพย์ ผู้เสียหายเพียบ เสียหายนับล้านบาท
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 เม.ย.67 ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายอารีย์ ลอดสุโข อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลาง โดยจับกุมได้ที่ คอนโดแห่งหนึ่งย่านแพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมของกลางที่ตามยึดคืนมาได้ 1.เงินสด 222,500 บาท 2.ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท มูลค่า 40,000 บาท 3.จี้เรือใบ น้ำหนัก 1 บาท มูลค่า 40,000 บาท รวม 302,500 บาท
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าขณะที่ผู้เสียหายจอดรถนอนหลับ หน้าสถานบันเทิง ย่านถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ หลังจากตื่นขึ้นมากลับพบว่าทรัพย์สินมีค่าทั้งเงินสด และสร้อยคอทองคำ หายไป และล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยครั้งนี้ได้ทองไป 8 บาท และเงินสด อีก 2 หมื่นบาท พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้าน 69 บาร์ เพื่อเร่งแกะรอยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
กระทั่งได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายได้อย่างชัดเจน พบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายอารีย์ ลอดสุโข ทำทีเดินมาที่รถของผู้เสียหาย และสำรวจดูว่าคนในรถหลับอยู่หรือไม่ ก่อนที่จะเปิดประตูหยิบเอาทรัพย์สินมีค่าหลบหนีไป ต่อมาสืบทราบว่า นายอารีย์ พักอยู่ที่คอนโดย่านแพรกษา ก่อนตำรวจจะขออนุมัติหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ ติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้
สอบสวนนายอารีย์ รับสารภาพว่า ตนเองก่อเหตุจริง ก่อเหตุมาแล้วนับสิบครั้ง เนื่องจากตกงานมาตั้งแต่ช่วงโควิด 19 ระบาด จึงไม่มีเงินมาใช้จ่าย กระทั่งไปรู้จักกับรุ่นพี่ซึ่งถูกจับกุมไปก่อหน้านี้ แนะนำวิธีการหาเงินโดยการ นั่งรถประจำทาง ออกตระเวนหาเหยื่อนักท่องราตรี ที่ชอบจอดรถนอนอยู่ริมถนน และหน้าสถานบันเทิง จากนั้นสบโอกาสก็จะทำทีไปเปิดประตู และทำทีเป็นพลเมืองดีสอบถามคนที่นอนหลับอยู่ว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือหรือไม่ แต่หากคนที่อยู่ในรถไม่ตื่น ตนเองก็จะปลดเอาสร้อยทองคำ และ หยิบเอาของมีค่าในรถไป แต่ตนเองจะเอาไม่มาก และพยายามจะไม่เอาโทรศัพท์มือถือ และเอกสารอื่นๆ เพราะยังมีจิตสำนึกอยู่ ส่วนทองที่ได้ก็จะนำไปขายและนำเงินมาใช้จ่าย
พล.ต.อ.วิชิต บุณชินวุฒิกุล กล่าวว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง แต่ที่มีพยานหลักฐานก็ประมาณ 5 ครั้ง ส่วนคดีต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดทำงานที่ไม่นิ่งนอนใจจนสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังนักเที่ยว ที่ดื่มแล้วขับรถกลับไม่ไหวและจอดรถนอนริมทาง ให้ระมัดระวังตัวโดยให้เลือกจอดในปั้มหรือบริเวณที่ปลอดภัย และล็อคประตูทุกครั้ง ส่วนผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อสามารถเดินทางมาแจ้งความเพิ่มได้ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ส่วนทรัพย์สินโดยรวมที่คนร้ายได้ไปคาดว่ามีมูลค่านับล้านบาท เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์เข้าไปด้วยประการใดๆ ส่งตัวให้พันกงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
สามารถติดตามเราเพิ่มได้ที่ Facebook : ข่าวสารเมืองปราการ V2 Tiktok : maungprakarn_v2