ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 11 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว รับแจ้งมีชายยิงปืนกลางหมู่บ้านกลางเมือง
ถนนศรีนครินทร์ ตำบลบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อไปตรวจสอบพบกลุ่มช่างก่อสร้างให้การว่า ขณะที่กำลังทำงานก่อสร้าง มีชายขี่รถยนต์มาจอดจุดที่ทำงานอยู่ แล้วต่อว่า ด่าทอ ว่าทำงานเสียงดังหนวกหู จากนั้นได้ใช้ปืนพกยิงลงพื้น 3 นัด ก่อนจะขับรถยนต์ วนกลับเข้าบ้านไป
ผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือ นายศุภกิจ สงวนดีกุล อายุ 56 ปี เป็นแพทย์ทหารยศพันเอก ผู้ก่อเหตุพูดจาเสียงดังโวยวาย ต่อว่าคนที่เข้าใกล้ เจ้าหน้าที่เข้าเจรจาก็ไม่เป็นผล ยิ่งทำให้ผู้ก่อเหตุมีอาการเครียดเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่จึงขอกำลังเสริม เพราะข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน และจุดที่เกิดเหตุก็เป็นใจกลางหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย อาวุธครบมือ เข้าคุมพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ชาวบ้านที่อยู่ติดในที่เกิดเหตุให้เคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ หรือ หากใครอยู่ในบ้านแล้วก็ห้ามออกมานอกบ้านเด็ดขาด ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เจรจากับผู้ก่อเหตุ กระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช จึงเจรจาให้ผู็ก่อเหตุปล่อยลูกสาววัย 10 ขวบ ออกมาด้านนอก ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ได้ปล่อยให้ลูกสาวออกมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานญาติ และให้เจ้าหน้าที่นิติบุคลของหมู่บ้านโทรศัพท์เข้าไปขอโทษผู้ก่อเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุดูท่าทีสงบลงบ้าง แต่ก็ยังไม่ยอมออกมามอบตัวด้านนอก พร้อมบอกจะแจ้งความกลับกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในข้อหาเจตนาให้ร้ายใส่ความ เวลาผ่านไปนานขึ้นการเจรจาไม่ได้ผล จึงได้ประสานผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุมาช่วยเจรา แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังมีอาการเครียดอยู่ ส่งเสียงดังโวยวาย เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้ารออยู่นานถึง 5 ชั่วโมง กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ผู้ก่อเหตุได้เดินลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน มามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาผู้ก่อเหตุเข้าพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุ ก่อนพาตัวผู้ก่อเหตุนำค้นภายในบ้านพบปืนบีบีกันสีดำ 1 กระบอก และปืนแก็บลูกโม่ 1 กระบอก พร้อมแก็บกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมพาผู้ก่อเหตุไปทำการรักษาโดยรถพยาบาลของโรงพยาบาลพระมงกฎฯ ส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ที่ผู้ก่อเหตุรักษาตัวอยู่มาประมาณ 10 ปี
นายรัตน์ คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา เล่าว่าขณะที่ตนทำงานอยู่ ผู้ก่อเหตุขับรถมาจอดตรงบริเวณสโมสรของหมู่บ้าน แล้วก็ด่าทอพวกตนเสียงดัง จากนั้นก็ใช้อาวุธปืนยิงหลายนัดแล้วก็ขับรถหนีออกไป
เจ้าหน้าที่นิติ ของหมู่บ้าน บอกว่า ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวผู้ก่อเหตุไปรักษาเพราะเกรงเรื่องความปลอดภัยของคนในหมู่บ้าน ส่วนที่ตนเห็นลูกสาวของผู้ก่อเหตุค่อยๆหลบออกมาจากบ้าน โดยเนื้อตัวเขียวช้ำ ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสิ่งใด แต่ดูลูกของผู้ก่อเหตุมีอาการขวัญเสียหวาดกลัว ส่วนสิ่งที่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจเรื่องเสียงจากการก่อสร้างสโมสรนั้นตนเองก็ยังไม่ทราบแน่ แต่ขณะนี้งานก่อสร้างก็ไม่ได้ค่อยใช้เสียงแล้ว จึงไม่น่าใช่มูลเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ส่วนที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุก็มีอาการเอะอะโวยวายอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยก่อเหตุรุนแรงอะไร ลูกบ้านก็ไม่เคยมาแจ้ง เพราะทุกครั้งที่เสียงดังสักพักเค้าก็จะเงียบไปเอง ซึ่งจากที่ตนพูดคุยกับภรรยาของผู้ก่อเหตุก็ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตและขาดยา
ทางด้าน พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้ยิง เป็นปืนแก็บ ถือเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน ที่ผู้ครอบครองไม่มีความผิด กรณีการจำหน่ายเท่านั้นที่เป็นความผิด แต่ผู้ก่อเหตุเข้าข่ายกระทำผิดข้อหา ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ด้วยการขู่เข็น นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิต กระทำการทำให้เสี่ยงอันตรายต่อผู้อื่น ทางเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตาม พรบ.สุขภาพจิด ม.22 ส่งเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้ส่งทำไปทำการรักษาแล้ว